[SPOIL & REVIEW] Yesterday : วันวาน ตำนาน และบทเพลงอมตะนิรันดร์กาล
- สินิทธ์ ปนุตติกร
- Oct 30, 2019
- 2 min read

มีภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องหรอก ที่เราจะ 'day one' และในฐานะที่เราเป็น big fan ของ The Beatles เรื่องนี้จึงไม่พลาด
จริงๆการเอาเพลง The Beatles มาใช้เป็นตัวชูโรงของหนังนั้นค่อนข้างเสี่ยง เนื่องจากเพลงเขาดีอยู่แล้ว กลายเป็นดาบสองคมว่าหนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจไม่ยากบนเส้นมาตรฐานที่สูงกว่าปกติ คล้ายๆว่าถ้าหนังดีก็เสมอตัว แต่ถ้าทำออกมาไม่ดี อาจมีโดนด่า
รีวิวคร่าวๆ คือแอบผิดหวังเล็กน้อย ที่เรื่องนี้เป็นเพียงหนังรักธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง เรียบๆ ไม่หวือหวา แล้วให้เพลงของ The Beatles เป็นเพียงตัวประกอบเล็กๆ ซึ่งก็ไม่ได้อิ่มขนาดนั้น เน้นปริมาณ เรียบเรียงใหม่ก็ไม่ได้เจ๋งอะไร โดยเราคาดหวังว่าหนังจะมีสื่อถึงตัวเพลง หรือเพลงสื่อถึงตัวหนัง มากกว่านี้เสียอีก
สิ่งเดียวที่เรา enjoy คือ easter egg ต่างๆ ที่แอบ hashtag ถึง The Beatles แต่ก็ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น ซึ่งเรากำลังจะ spoil ในบรรทัดต่อไป
....
- ในเรื่องมี easter egg เกี่ยวกับ The Beatles เยอะพอสมควร แต่ที่เราชอบที่สุด คือฉากที่พูดถึง Paul และ Ringo แล้วตัดภาพมาเป็น 2 ขาของคน 2 คนกำลังก้าวเข้ามาในห้อง
ถ้าสังเกตดีๆ ขาซ้ายจะไม่ใส่รองเท้า ซึ่งแฟน The Beatles จะทราบทันทีว่านั่นคือ Paul McCartney อย่างแน่นอน ส่วนขาขวาคือ Ringo Starr อ้างอิงจากหน้าปกอัลบั้ม Abbey Road ที่ Paul เป็นคนเดียวที่เดินเท้าเปล่า
- ตอนเสนอชื่ออัลบั้มต่างๆในห้องประชุม ทั้ง Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band, White Album และ Abbey Road ล้วนเป็นชื่ออัลบั้มของ The Beatles ทั้งสิ้น
- ฉากในโรงพยาบาล ที่พระเอกเล่นมุขว่า "เมื่อฉันอายุ 64 เธอจะต้องการฉันอีกไหม เธอยังจะดูแลฉันอีกไหม" แล้วนางเอกถามว่า "ทำไมต้องอายุ 64"
เหตุผลมาจากเนื้อเพลงที่ว่า "Will you still need me? Will you still feed me? When I'm Sixty-Four" จากเพลง When I'm 64 ในอัลบั้ม Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band นั่นเอง
- จังหวะที่พระเอกถูกรถชน เสียงเพลงประกอบอ้างอิงจากเพลง A Day in the Life อย่างชัดเจน
- ในห้องอัดครั้งแรกของพระเอก มีการพูดว่า "while my guitar gently weeps" มาจากเพลงที่มีชื่อเดียวกัน อยู่ใน White Album แต่งโดย George Harrison
- กระดาษ post-it บนกำแพงห้องพระเอกช่วงก่อนถูกรถชน แอบเห็นแผ่นหนึ่งเขียนชื่อเพลงว่า If I Knew เราคาดว่าตั้งใจดัดแปลงจากเพลง If I Fell จากอัลบั้ม A Hard Day's Night
- เพลง A Hard Day's Night ที่มีการถามกันในห้องอัดถึงความหมายของเพลง แล้วพระเอกดันตอบไม่ได้
แท้จริงวลีนี้มันผิดไวยากรณ์แต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งมันมาจากนิสัยการพูดผิดพูดถูกของ Ringo Starr ในครั้งหนึ่ง (Ringo ไม่ค่อยได้เรียนหนังสือ เนื่องจากอาการป่วยเรื้อรังตั้งแต่เด็ก) แล้ว Paul กับ John ชอบใจ เลยเอามาแต่งเป็นเพลง
- ส่วนเพลง Hey Jude นั้น ที่มาของเพลงถูกต้องตามที่พระเอกเล่าไว้ เพราะเรื่องจริงคือ Paul แต่งให้กับ Julian Lennon ลูกชายของ John Lennon กับ Cynthia Powell ภรรยาคนเก่า โดยตอนนั้น John กับ Cynthia เพิ่งหย่ากัน เพราะ John หันไปคบกับ Yoko แทน โดยทีแรกชื่อเพลงนี้คือ Hey Jules ที่ย่อมาจากชื่อของ Julian นั่นเอง
- แสดงคอนเสิร์ตบนดาดฟ้าอาคาร คือหนึ่งใน easter egg ที่แสดงความเคารพต่อ The Beatles ที่สุดฉากหนึ่งสำหรับเรา โดย The Beatles นั้นเล่นดนตรีร่วมกันครั้งสุดท้ายบนดาดฟ้าของตึก Apple Corps บริษัทที่ดูแลลิขสิทธิ์เพลงของ The Beatles นั่นเอง (คนละ Apple ที่ผลิต iPhone นะครับ)
- โดยส่วนมาก หนังหรือการแสดงที่เอาเพลง The Beatles มาใช้ จะมีแค่เพลงฮิตติดหู แต่เรื่องนี้มีเพลงที่คาดว่าหลายคนอาจไม่รู้จัก เช่น Back in the U.S.S.R., Eleanor Rigby, Maxwell's Silver Hammer หรือเพลงที่เซอร์ไพรส์ที่สุดสำหรับเราอย่าง Carry That Weight จากอัลบั้ม Abbey Road ไม่คิดจริงๆว่าจะเอาส่วนหนึ่งจากเมดเล่หลายๆเพลงมาใช้ด้วย
- ตอนที่พระเอกไปเมือง Liverpool โดยเยือนสถานที่ 3 แห่ง คือ Strawberry Fields, Penny Lane และหลุมศพที่มีคำว่า Eleanor Rigby ทั้งหมดมีอยู่จริง โดย Strawberry Fields และ Penny Lane เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงจริง แต่ Eleanor Rigby นั้น Paul เคยยืนยันว่าเป็นชื่อที่เขาแต่งขึนมาเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลุมศพนั้นแต่อย่างใด
- สิ่งหนึ่งที่เราผิดหวังมากๆ คือเพลง Eleanor Rigby ที่พระเอกพยายามงมหาเนื้อเพลงอยู่นาน ตอนแรกคิดว่าจะมีอะไรสำคัญ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเลย สร้างปมไว้ทำไมตั้งนานก็ไม่รู้ และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเพลง Eleanor Rigby ด้วยนะ เพราะเพลงนี้สำหรับเรามันไม่ได้โดดเด่นพอจะเอามาเล่นอะไรได้ขนาดนั้น
- มีฉากหนึ่งที่ใครสักคนพูดว่า "with a little help from my friends" มีที่มาจากเพลงที่มีชื่อเดียวกันของ The Beatles ในอัลบั้ม Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band โดยความพิเศษของเพลงนี้คือ Ringo เป็นคนร้อง
- รวมถึงของเล่นเรือดำน้ำสีเหลือง หรือสวนปลาหมึกยักษ์ที่มีการพูดถึงกัน ตอนที่มี 2 คนที่จำ The Beatles ได้ เข้ามาหาพระเอก ทั้ง 2 เพลงนั้นก็ร้องโดย Ringo เช่นกัน
- ประโยคเด็ดที่เลนเอาเราน้ำตาซึมไปเลย คือคุณป้าที่จำ The Beatles ได้ พูดว่า "ในโลกที่ไม่มีเพลงของ The Beatles มันไม่น่าอยู่เอาเสียเลย" อันนี้เห็นด้วยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ
- อีกฉากที่น่าจะพีคที่สุดในเรื่อง คือการปรากฏตัวของ John Lennon ที่เสียชีวิตมาเกือบ 40 ปีแล้วในโลกความเป็นจริง ซึ่งตอนแรกก็ว้าวมากๆเลยนะ เรียกเสียงฮือฮาได้ทั้งโรง แต่ตัวบทกลับไม่ได้สื่ออะไรถึง John เลย มีเพียงหน้าตาเท่านั้นที่ชวนให้คิดถึงได้บ้าง เลยผิดหวังพอสมควร (เหมือนพยายามใส่เข้าไปอ่ะ ไม่ได้สำคัญกับเนื้อเรื่องเท่าไร)
- สิ่งที่ทำให้เราฟินฯที่สุด คือตอนจบที่ขึ้นเพลง Hey Jude เวอร์ชั่นต้นฉบับมา เสียงของ Paul มันชวนให้คิดถึงเสียจริงๆ
- สุดท้าย มุขตลกที่เราชอบที่สุดในเรื่อง คือตอน search คำว่า Oasis บนเวบ google แล้วไม่เจอวงดนตรีในตำนาน อันนั้นเราหลุดฮาก๊ากคนเดียวในโรง จนต้องเอามือมาปิดปากตัวเองเลย 5555555555
....
คือเราเองก็เป็นแฟนวง Oasis ตัวยงเหมือนกัน หรือใครก็ตามที่เป็นแฟนวงนี้ จะรู้ว่า Oasis นั้นเทิดทูนบูชา The Beatles อย่างมาก หลายๆเพลงของ Oasis ก็แอบใส่เนื้อเพลงหรือดนตรีของ The Beatles ไปด้วย (บางเพลงไม่เรียกว่าแอบด้วย แม่งลอกเลียนแบบซึ่งๆหน้าเลย) ซึ่งในจักรวาลที่ไม่มี The Beatles อย่างในหนัง จะทำให้วง Oasis หายไปด้วย ประมาณว่าถ้าไม่มี The Beatles ซะอย่าง วงอย่าง Oasis ก็ไม่มีปัญญาเกิดขึ้นได้หรอก ฮ่าๆๆๆ
ขอสรุปสั้นๆว่า ใครที่อยากดูหนังเรื่องนี้โดยคาดหวังว่าจะชวนให้ระลึกถึง The Beatles นั้น ขอให้ทำใจก่อนเข้าชม เพราะมันไม่ได้พูดถึงมากขนาดนั้น มันเป็นเพีงหนังรัก romantic ธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง ที่ใช้เพลงของ The Beatles เป็นส่วนประกอบหลักเท่านั้นเอง ไม่ได้อิ่มเอมขนาดเรื่อง Across the Universe หรือสุดยอดภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอย่าง I Am Sam เท่าไร
Comentários