[SCOOP] เบื้องหลังความขัดแย้งของประเทศเกาหลี
- สินิทธ์ ปนุตติกร
- May 21, 2018
- 1 min read

เป็นประเด็นใหญ่ของโลกทีเดียว สำหรับการเดินทางมาพบและเจรจากันครั้งแรกระหว่างผู้นำเกาหลีจากทั้ง 2 ฝั่ง
คิม จอง อึน กลายเป็นผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือที่ได้ก้าวเท้าเข้ามายังเขตของเกาหลีใต้ หลังมีการขีดเส้นแบ่งพรหมแดนมานานกว่า 70 ปี เพื่อพบกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ อิน ซึ่งลือกันว่าเพื่อเจรจายุติโครงการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองผู้นำเกาหลีอีกด้วย
บทความนี้จะขอย้อนกลับไปขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ ว่าแผ่นดินเกาหลีนั้นถูกขีดเส้นแบ่งพรหมแดนได้อย่างไร จะขอเล่าที่มาที่ไปของความขัดแย้งระดับโลกนี้แบบกล่าวโดยย่อนะครับ
....
เดิมเกาหลีก็เป็นประเทศเดียวนั่นแหละ ชื่อเก่าคือ “โคกูรยอ” ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “โครยอ” หรือ Korea ในปี ค.ศ.918
ในยุคล่าอาณานิคม ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แผ่นดินเกาหลีถูกรุกรานจากจีนและญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ จนในที่สุด เกาหลีก็ต้องอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 1910 เป็นต้นมา จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 (ปี 1945) เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม ก็ต้องสละที่มั่นและเอกราชทั้งหมดที่ตนเคยปกครอง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแผ่นดินเกาหลี
“ประเทศเกาหลีภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น” หลังแพ้สงครามจึงกลายเป็นประเทศว่างๆ ประเทศหนึ่ง ทางมหาอำนาจฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะสงครามอย่าง สหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียต ต่างก็ต้องการเข้ามาปกครองเกาหลีแทนที่ของญี่ปุ่น
ขณะนั้นสหรัฐอเมริกาติดภารกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จึงทำการส่งเรือออกจากเกาะญี่ปุ่นเพื่อเข้ามายึดพื้นที่เกาหลีทางภาคใต้ ทว่าด้วยการเดินทางด้วยเรือจึงทำให้ล่าช้ากว่าทางสหภาพโซเวียต (รัสเซียในปัจจุบัน) ที่มีแผ่นดินติดกับภาคเหนือของเกาหลี ซึ่งได้เดินทางมายึดพื้นที่ฝั่งเหนือเรียบร้อยแล้ว
เหตุนี้เอง ทำให้เกาหลีทางตอนเหนือถูกปกครองโดยสหภาพโซเวียตด้วยระบบคอมมิวนิสต์ ส่วนทางฝั่งใต้ถูกปกครองโดยสหรัฐอเมริกาด้วยระบบประชาธิปไตย
เมื่อเข้าสู่สงครามเย็น (พูดง่ายๆ ก็คือสงครามที่ทั้งคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตยต่างฝ่ายต่างก็บอกว่าตนเองดีกว่า) ประเทศเกาหลีจึงอยู่ร่วมกันบนเส้นขนานของ 2 แนวคิดที่แตกแยกกัน
สหภาพโซเวียตได้ผลักดันผู้นำทหารเกาหลีขึ้นมาปกครองประเทศทางภาคเหนือ ทางสหรัฐฯก็ไม่น้อยหน้า แต่งตั้งผู้นำชาวเกาหลีอีกคนขึ้นมาปกครองภาคใต้
เกิดความขัดแย้งกันไปมาระหว่าง 2 มหาอำนาจ ที่ต่างฝ่ายต่างก็อ้างสิทธิ์ว่าทั้งแผ่นดินนี้เป็นของตน จนสุดท้ายต้องขีดเส้นแบ่งเขตแดนขึ้นมาบริเวณละติจูดที่ 38 กลายเป็นต่างคนต่างอยู่กันไป กระนั้นก็ยังคงอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของกันเรื่อยมา
จนกระทั่ง 4-5 ปีต่อมา เริ่มมีการรุกล้ำอาณาเขตกัน โดยเริ่มจากฝั่งเหนือที่ส่งกำลังทหารเต็มรูปแบบ พร้อมกำลังสนับสนุนจากประเทศใกล้เคียงอย่างโซเวียตและจีน ลงมาโจมตีเพื่อยึดครองพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งก็เกือบจะทำได้อยู่แล้ว โดยยึดได้มากสุดจนเหลือพื้นที่เพียงแค่จังหวัดปูซานเท่านั้น แต่แล้วทางสหรัฐฯก็ส่งกองกำลังเข้ามาช่วยทางฝั่งใต้ (เรียกว่า “ยุทธการอินชอน”) โจมตีฝ่ายเหนือกลับจนยึดพื้นที่ได้มากสุดเกือบจะถึงแผ่นดินจีน ก่อนจะต้านทานและรุกกลับมาได้ สุดท้ายก็มาพัวพันที่เส้นเขตแดนละติจูดที่ 38 กันอย่างยืดเยื้อ
จนฝ่ายสหรัฐอเมริกาเริ่มขอเจรจาเพื่อความสันติภาพ ซึ่งทางโซเวียตก็ยอมเจรจาด้วย แต่สุดท้ายการพูดคุยก็ยุติลงด้วยการลงนาม “พักรบ” เท่านั้น และยังคงพักรบอย่างนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งรวมแล้วเป็นระยะเวลานานกว่า 70 ปีเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจก็คือ การพักรบครั้งนี้กลับเป็นการลงนามของชาติฝ่ายสัมพันธมิตรเสียเอง โดยที่ชาวเกาหลีไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ เลย!?
….
บทสรุปของการเดินทางมาพบกันระหว่าง คิม จอง อึน และ มุน แจ อิน ในครั้งนี้ยังคงเป็นปริศนา
แต่ก็น่าชื้นใจขึ้นมาบ้าง เพราะอย่างน้อยชาวเกาหลีก็ได้เจรจากันเองจริงๆเสียที!?

댓글