[SCOOP] เสียงจากบังโต....กับความเข้าใจที่อภัยให้ไม่ได้!?
- สินิทธ์ ปนุตติกร
- Apr 12, 2018
- 1 min read

จะว่าอะไรไหม หากผมจะบอกว่าเป็นคนหนึ่งที่ไม่นิยมไหว้พระพุทธรูปเช่นกัน!?
….
เปล่าเลย ผมเป็นชาวพุทธเต็มตัว ยึดคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักในการดำเนินชีวิตด้วยซ้ำ เพียงแต่ผมศรัทธาแค่คำสอนเท่านั้น ไม่ยักศรัทธาในความเชื่อ โดยเฉพาะความเชื่อที่มีพิธีกรรมต่างๆเป็นส่วนประกอบ
ส่วนตัวมองว่าพระพุทธรูป มีไว้คอยย้ำเตือนให้เราระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อใดที่ชีวิตเริ่มหลงทาง การได้เห็นพระพุทธรูปอาจดึงสติของเรากลับมาได้ แต่ถ้าเราสามารถรำลึกถึงคำสอนได้ทุกเวลา ก็ไม่เห็นจะต้องบูชาพระพุทธรูปเลยนี่นะ....แต่ก็เข้าใจ ว่าไม่ใช่ทุกคนนั่นแหละ
คนบางคนนิยมทำพิธีกรรมเพื่อความสบายใจ และสร้างความมั่นใจให้กับชีวิตตัวเองได้....ซึ่งก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นะ
รอบข้างผมหลายคนทีเดียวที่มีการศึกษาไม่สูงนัก แม้แต่หลักสูตรประถมก็ยังไม่สามารถบรรลุได้เนื่องด้วยปัจจัยหลายประการ
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อไม่ค่อยมีความรู้ จึงต้องใช้ความเชื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งยอมรับว่าผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้หรอกนะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรหรอกนะ ถ้ามันไม่ได้เดือดร้อนใคร
และถึงอย่างไร พวกเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน แค่เชื่อไม่เหมือนกันคงไม่ทำให้ใครดีหรือด้อยไปกว่าใครได้
....
สมัยหัดเล่นดนตรีใหม่ๆ ใครๆก็รู้ดีว่าผมรักวง Silly Fools มาก โดยเฉพาะนักร้อง/นักแต่งเพลงของวงอย่าง “พี่โต” ที่เราเรียกกันในสมัยนั้น ก่อนที่ปัจจุบันจะมาเป็น “บังโต” ผู้หันหลังให้กับความเย้ายวนต่างๆโดยสิ้นเชิง
แม้จะเปลี่ยนบทบาทไป แต่ในใจผมก็ยังแอบชื่นชมเขาอยู่นะ เพราะในความเป็นนักเผยแผ่ศาสนา ยังสัมผัสได้ถึงความ ‘ร็อค’ ในตัวเขาเสมอ
จนกระทั่งรายการ โต-ตาล ออกอากาศเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561บังโตได้ตอบคำถามกับแฟนรายการ จนเกิดกระแสดราม่าลากยาวจนถึงตอนนี้ ที่ผมมองว่าเขาได้ทำพลาดมหันต์ จนยากที่สังคมจะอภัยให้กันง่ายๆ!?
....
ส่วนตัวมองว่า สิ่งที่บังโตพูดนั้นสามารถเข้าใจได้ทั้งหมด ในฐานะที่เป็นคนไม่บูชารูปปั้นเหมือนกัน....แต่ก็แอบคิดว่าวาจาที่ใช้นั้นมีความเหมาะสมหรือไม่
เช่น “ผมจะไม่กราบสิ่งใดที่ต่ำกว่าผม”, “จะไหว้ทำไมในสิ่งไม่มีชีวิตที่อัปลักษณ์กว่าผม”, “ปั้นให้ตายยังไงก็หล่อสู้ผมไม่ได้”, “มันคนละรุ่นกัน มันต่ำกว่าผม”, “การไปทุบรูปปั้นเป็นสิ่งที่ดี” หรือ “พระพุทธเจ้าต้องหล่อไม่แพ้เขา” เป็นต้น
จริงอยู่ บังโตแค่ตอบคำถามในมุมของตัวเอง จึงแสดงความเห็นออกมาอย่างชัดเจนว่าคิดอย่างไรต่อค่านิยมของคนศาสนาอื่น
แต่ต้องไม่ลืมว่า ‘ศาสนา’ ยังคงเป็นเรื่องอ่อนไหวต่อมวลมนุษย์เสมอมา (โดยเฉพาะเมืองไทยเมืองพุทธ)
แล้วด้วยคำพูดรวมทั้งกิริยาท่าทางที่บังโตใช้นั้น มันกระทบความรู้สึกคนอย่างรุนแรง จนแทบจะเรียกว่า “เหยียด” ได้เลยล่ะ...ซึ่งนี่เอง ที่ผมว่าอภัยให้ได้ยากจริงๆ
อีกอย่างที่ผมว่าบังโตพลาดไป คือการแสดงทัศนะเพียงข้างเดียว ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกอีกเสียงสะท้อนกลับมา เพราะถ้าคุณบอกว่าชาวพุทธไทยยึดติดกับรูปปั้น อีกฝ่ายก็สามารถพูดได้ว่าคุณเองก็กำลังยึดติดกับอากาศธาตุที่ไม่มีตัวตนอย่าง ‘พระเจ้า’ เช่นกัน
คุณพูดว่ารูปปั้นมันต่ำเพราะไม่มีชีวิต แตกหักได้ ไม่มีค่ามากกว่าคน ชาวพุทธที่มีทัศนคติเหมือนคุณก็อาจกล่าวได้ว่า พระเจ้านั้นไม่มีตัวตน ไม่มีรูปลักษณ์ให้เห็น จะมาอยู่เหนือกว่ามนุษย์ได้อย่างไร
....
ยอมรับเถอะครับ ว่าคำพูดที่คุณใช้ มันยิ่งทำให้คนที่ไม่เข้าใจในความต่างของศาสนาเลวร้ายลงกว่าเดิม….ไม่เชื่อก็ลองอ่านคอมเมนต์ใต้คลิปนี้ดูสิ
และผมเชื่อว่านี่คงไม่ใช่ประสงค์ของพระเจ้าหรอกนะ!?
Comments