ความรัก กับ คุณค่าของคน
- สินิทธ์ ปนุตติกร
- Feb 13, 2017
- 1 min read

“มนุษย์ทุกคนล้วนมีคุณค่าอยู่ในตัวเองทั้งสิ้น”
สิ่งที่น่าแปลกใจอย่างหนึ่ง คือมักจะมีคนมาปรึกษาปัญหาหัวใจกับผมบ่อยๆ บางคนไม่ถึงกับปรึกษา แค่หาที่ระบายเฉยๆ ทั้งที่ผมเป็นคนไม่อินเรื่องความรัก ไม่มักความหวาน ไม่เชี่ยวชาญด้านความโรแมนติก หรือคนเหล่านั้นแสวงหาแต่มุมที่สวยงาม จนลืมไปว่ายังมีอีกด้านให้ต้องเผชิญ จึงมาค้นหาด้านนั้นจากผู้อื่น
จากเรื่องราวของพวกเขา ค้นพบว่ามีจุดร่วมของปัญหาที่คล้ายกัน คือการมองไม่เห็นคุณค่าซึ่งกันและกัน หรืออีกฝ่ายทำให้เรารู้สึกด้อยค่าลงไป
ทั้งที่เรื่องพวกนี้เข้าใจได้ไม่ยาก หากแต่ไม่ค่อยมีใครคำนึงถึง
อาจเพราะตอนจีบกันใหม่ๆ ใช้เพียงอารมณ์และความรู้สึกเป็นตัวนำ จนทำให้มองข้ามความเป็นเหตุเป็นผลไป ไม่ทันคิดหน้าคิดหลัง รู้ตัวอีกครั้งก็คบกันเสียแล้ว
หรืออาจเพราะเราเคยชินกับการใช้ชีวิตแบบมองไปข้างหน้า ใส่ใจสิ่งรอบข้าง เข้าหาสังคม ติดต่อผู้คน จนลืมหันกลับมาสำรวจตัวเองบ้าง
ถ้าอย่างนั้น คุณค่าของคนคืออะไรล่ะ....??
....
ในทัศนะของผม ค่าของคนไม่ใช่เรื่องภาพลักษณ์ที่ดี มีหน้ามีตาในสังคม มีอำนาจลาภยศ มีชื่อเสียงเงินทอง หรือความพร้อมในการสร้างครอบครัวตามระบบทุนนิยม
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเปลือกนอก ที่เมื่อปอกออกมาเมื่อไร ก็ไม่มีใครดีไปกว่าใครแล้ว
ไม่ต่างอะไรกับการมีคนมาจีบด้วยวิธีสร้างโปรโมชั่นขึ้นมา เพื่อให้อีกฝ่ายสนใจ เมื่อเราตกหลุมตายใจเมื่อไร โปรฯเดิมจะค่อยๆหายไป ตัวตนจะค่อยๆแทรกเข้ามา เมื่อนั้นเองที่เราจะรู้สึกว่าคุณค่าของเขาเปลี่ยนไป ดั่งเปลือกนอกที่เมื่อถูกปอกออกมา แล้วพบว่าเนื้อแท้ภายใน ไม่ใช่อย่างที่เคยสัมผัส
สำหรับผม คุณค่าของคนหนึ่งคน ก็คือความเป็นตัวเขานั่นแหละ (ง่ายไหม?)
ผมให้ความสำคัญกับความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างมาก ไม่ว่าคุณจะมีบุคลิกอย่างไร มีรสนิยมแบบไหน ล้วนแล้วมีคุณค่าทั้งสิ้น
แม้แต่ความงี่เง่านิสัยเสีย ก็เป็นส่วนหนึ่งของคุณค่าเช่นกัน ในเมื่อมันเป็นตัวเรา ก็ไม่จำเป็นต้องหลอกตัวเองเพื่อให้เขารับได้หรอก กลับกันเสียอีก จะได้รู้ให้ชัดไปเลย ว่าเขารับข้อเสียของเราได้หรือไม่
และคุณเองก็ไม่ควรคาดหวังให้ใครเป็นอย่างไรด้วยเช่นกัน ไม่ต้องร้องขอให้เขาเป็นแบบนี้ได้ไหม ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น สิ่งไหนรับได้หรือไม่ก็บอกกันตรงๆ ไม่ต้องเป็นห่วงไป ถ้าคุณคือคนที่ใช่สำหรับเขา เขาเองก็พร้อมที่จะปรับตัวเข้าหาคุณอยู่แล้ว
แล้วก็ไม่ต้องไปฟังคำคน หากเขาพูดว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นอย่างไร เพราะการประกาศออกมาเช่นนี้ อาจเป็นการใช้คารมคำหวานล่อลวงให้ตายใจ คล้ายการสร้างเปลือกขึ้นมา ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้า
ถ้าเขาอยากเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยใจจริง คงลงมือปฏิบัติไปแล้ว
ไม่ใช่ว่าคำปฏิญาณจะเชื่อไม่ได้ แต่การแสดงให้เห็นมันพิสูจน์ได้แจ้งใจกว่า จะรักใครทั้งทีคงต้องการสิ่งที่ชัดเจนมากกว่า จริงไหม?
....
อีกปัญหาหนึ่งที่พบก็คือ การไม่รู้ว่าตัวเองมีคุณค่า และไม่รู้ว่าจะดึงคุณค่านั้นมาใช้อย่างไร หากเป็นเช่นนี้ อีกฝ่ายจะได้ใจ เข้าหาเราอย่างไม่รู้คุณค่า เมื่อหมดความปรารถนาก็ตีตัวจากอย่างง่ายดาย
กรณีนี้พูดยาก เนื่องจากแต่ละคนมีตัวตนที่ไม่เหมือนกัน จะให้แนะนำก็คงต้องดูเป็นรายคนไป หากใครมีเวลา จะเข้ามาปรึกษาเป็นการส่วนตัวก็ไม่ว่า พร้อมยินดีรับฟัง เผื่อจะช่วยค้นหาคุณค่าในตัวคุณได้บ้าง
จากทั้งหมดนี้ ขอกล่าวโดยสรุปว่า หากจะหาใครสักคนที่เราอยากฝากอนาคตไว้ คนๆนั้นต้องเห็นคุณค่าที่แท้จริงในตัวเรา ต้องไม่บั่นทอนคุณค่าของเรา และต้องไม่ทำให้เรารู้สึกด้อยค่าลงไปเองด้วย
....
หลายคนปรารถนาความรักที่ไม่ต้องใช้ความพยายาม เรื่องนี้ ผมขออนุญาตไม่เห็นด้วยครึ่งหนึ่ง เพราะเชื่อว่ามนุษย์ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ ยิ่งใช้ชีวิตไปมากเท่าไร ความคิดหรือวุฒิภาวะย่อมแปรผันไปตามประสบการณ์ พูดง่ายๆว่า คนหนึ่งคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา แล้วนับประสาอะไรกับคนสองคน
เมื่อ “เวลาเปลี่ยน - คนเปลี่ยน” เช่นนี้ การปรับตัวเข้าหากันตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ซึ่งคงต้องใช้ความพยายามกับเรื่องนี้ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หากแต่สิ่งที่ผมยังเชื่ออยู่อีกครึ่ง คือเราควรหาคนที่ไม่ต้องพยายามจะรับเราให้ได้ต่างหาก
การยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนไปตามเวลาแค่ไหน ไม่ควรใช้ความพยายามที่มากเกินไป เพราะนั่นอาจหมายถึงเขาไม่ได้รู้จักคุณค่าแท้จริงในตัวคุณเลย
แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าแบบไหนที่เรียกว่าพยายามจนเกินไป?
ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเขาเรียกร้องสิ่งใดจากตัวเราอย่างไร้เหตุผล หรือใช้แค่รสนิยมของเขาเพียงฝ่ายเดียว จนเรารู้สึกตะขิดตะขวงในใจ ให้เข้าใจกลายๆได้เลยว่า เขากำลัง “ละเมิด” คุณค่าในตัวคุณอยู่
นี่แหละ ที่ดูพยายามเกินไปจริงๆ!?
Comments